LHFG เข้าเป็นแนวร่วมอุณหภิบาล (CAG Alliance)
มุ่งเป้าลด Scope 3 Emissions ตามมาตรฐาน Corporate Net Zero ของ SBTi
บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (LHFG) บริษัทแม่ของกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ประกาศเข้าเป็นแนวร่วมอุณหภิบาล (CAG Alliance) ในฐานะบริษัทแนวหน้าด้านการกำกับดูแลกิจการที่เกี่ยวโยงกับสภาพภูมิอากาศ โดยคำนึงถึงการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกในขอบข่ายที่ 3 ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ ตาม Corporate Net-Zero Standard ที่สอดคล้องกับศาสตร์ทางภูมิอากาศ

บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (LHFG) โดยนายวรวุฒน์ โตเจริญธนาผล President (ที่สองจากขวา) และนายวิเชียร อมรพูนชัย (ขวาสุด) กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ เข้าเป็นแนวร่วมอุณหภิบาล (CAG Alliance) ในฐานะบริษัทแนวหน้าด้านการกำกับดูแลกิจการที่เกี่ยวโยงกับสภาพภูมิอากาศที่ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ ร่วมกับสถาบันไทยพัฒน์ โดยนายพิพัฒน์ ยอดพฤติการ (ที่สองจากซ้าย) ประธานสถาบันไทยพัฒน์
นายวรวุฒน์ โตเจริญธนาผล President บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (LHFG) ได้เข้าเป็นแนวร่วมอุณหภิบาล หรือ Climate-Aligned Governance Alliance (CAG Alliance) ที่ริเริ่มโดยสถาบันไทยพัฒน์ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มุ่งเน้นงานด้านความยั่งยืนที่ขับเคลื่อนร่วมกับภาคธุรกิจเอกชนมาอย่างต่อเนื่องกว่า 20 ปี เพื่อใช้ประโยชน์จากเครื่องมือบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกในขอบข่ายที่ 3 และการรับการตรวจรับรองความก้าวหน้าการลดมลอากาศในห่วงโซ่คุณค่าตามมาตรฐานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของกิจการ (Corporate Net-Zero Standard)
“บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ให้ความสำคัญและมุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมทั้งการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อม อาทิ สินเชื่อที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Loan) สินเชื่อเพื่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม (Green Transition Loan) และสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability-linked Loan : SLL) เป็นต้น ตลอดจนการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) โดยมีเจตนารมณ์ในการสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals : SDGs) เป้าหมายที่ 9.4 เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม”
นายพิพัฒน์ ยอดพฤติการ ประธาน สถาบันไทยพัฒน์ กล่าวว่า “สถาบันฯ มีความยินดีที่บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้เข้าเป็นแนวร่วมอุณหภิบาล ซึ่งริเริ่มขึ้นด้วยเจตนารมณ์ที่มุ่งหมายให้องค์กรมีเครื่องมือเพื่อช่วยในการปรับตัวและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการเข้าเป็นแนวร่วมฯ นี้ มีส่วนในการตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เป้าที่ 9 โครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรม และการปรับให้เป็นอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน ตัววัดที่ 9.4.1 ที่เป็นปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลดได้ต่อหน่วยมูลค่าเพิ่ม”
ตามมาตรฐาน Corporate Net Zero ของ SBTi ที่ประกาศใช้เมื่อปี ค.ศ. 2024 กำหนดให้กิจการที่มีสัดส่วนมลอากาศในขอบข่ายที่ 3 เกินกว่า 40% ของปริมาณมลอากาศที่ปล่อยทั้งหมด จะต้องตั้งเป้าหมายระยะใกล้ (5-10 ปี) เพื่อลดมลอากาศในขอบข่ายที่ 3 ลงให้ได้สองในสาม หรือ 67% ของปริมาณมลอากาศที่ปล่อยในขอบข่ายที่ 3 เพื่อให้สอดคล้องกับกรอบเพดานอุณหภูมิไม่เกิน 2°C เป็นอย่างน้อย ขณะที่การตั้งเป้าหมายระยะยาว (ปี ค.ศ. 2050) ต้องลดมลอากาศที่ปล่อยในขอบข่ายที่ 3 ให้ได้ 90% เพื่อให้สอดคล้องกับกรอบเพดานอุณหภูมิไม่เกิน 1.5°C
อนึ่ง แนวร่วมอุณหภิบาล (CAG Alliance) เป็นความริเริ่มของสถาบันไทยพัฒน์ ที่เน้นส่งเสริมบทบาทขององค์กรธุรกิจแนวหน้าด้านการกำกับดูแลกิจการที่เกี่ยวโยงกับสภาพภูมิอากาศ โดยคำนึงถึงการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกในขอบข่ายที่ 3 ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่คุณค่า เพื่อมุ่งสู่การบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ตาม Corporate Net-Zero Standard ที่สอดคล้องกับศาสตร์ทางภูมิอากาศ
ข้อมูลเพิ่มเติม
คุณศิตา ศิริศักดิพร
โทรศัพท์: 02-930-5227 โทรสาร: 02-930-5228
อีเมล: info@thaipat.org
[ข่าวประชาสัมพันธ์]
บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (LHFG) บริษัทแม่ของกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ประกาศเข้าเป็นแนวร่วมอุณหภิบาล (CAG Alliance) ในฐานะบริษัทแนวหน้าด้านการกำกับดูแลกิจการที่เกี่ยวโยงกับสภาพภูมิอากาศ โดยคำนึงถึงการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกในขอบข่ายที่ 3 ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ ตาม Corporate Net-Zero Standard ที่สอดคล้องกับศาสตร์ทางภูมิอากาศ

บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (LHFG) โดยนายวรวุฒน์ โตเจริญธนาผล President (ที่สองจากขวา) และนายวิเชียร อมรพูนชัย (ขวาสุด) กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ เข้าเป็นแนวร่วมอุณหภิบาล (CAG Alliance) ในฐานะบริษัทแนวหน้าด้านการกำกับดูแลกิจการที่เกี่ยวโยงกับสภาพภูมิอากาศที่ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ ร่วมกับสถาบันไทยพัฒน์ โดยนายพิพัฒน์ ยอดพฤติการ (ที่สองจากซ้าย) ประธานสถาบันไทยพัฒน์
นายวรวุฒน์ โตเจริญธนาผล President บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (LHFG) ได้เข้าเป็นแนวร่วมอุณหภิบาล หรือ Climate-Aligned Governance Alliance (CAG Alliance) ที่ริเริ่มโดยสถาบันไทยพัฒน์ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มุ่งเน้นงานด้านความยั่งยืนที่ขับเคลื่อนร่วมกับภาคธุรกิจเอกชนมาอย่างต่อเนื่องกว่า 20 ปี เพื่อใช้ประโยชน์จากเครื่องมือบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกในขอบข่ายที่ 3 และการรับการตรวจรับรองความก้าวหน้าการลดมลอากาศในห่วงโซ่คุณค่าตามมาตรฐานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของกิจการ (Corporate Net-Zero Standard)
“บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ให้ความสำคัญและมุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมทั้งการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อม อาทิ สินเชื่อที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Loan) สินเชื่อเพื่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม (Green Transition Loan) และสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability-linked Loan : SLL) เป็นต้น ตลอดจนการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) โดยมีเจตนารมณ์ในการสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals : SDGs) เป้าหมายที่ 9.4 เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม”
นายพิพัฒน์ ยอดพฤติการ ประธาน สถาบันไทยพัฒน์ กล่าวว่า “สถาบันฯ มีความยินดีที่บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้เข้าเป็นแนวร่วมอุณหภิบาล ซึ่งริเริ่มขึ้นด้วยเจตนารมณ์ที่มุ่งหมายให้องค์กรมีเครื่องมือเพื่อช่วยในการปรับตัวและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการเข้าเป็นแนวร่วมฯ นี้ มีส่วนในการตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เป้าที่ 9 โครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรม และการปรับให้เป็นอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน ตัววัดที่ 9.4.1 ที่เป็นปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลดได้ต่อหน่วยมูลค่าเพิ่ม”
ตามมาตรฐาน Corporate Net Zero ของ SBTi ที่ประกาศใช้เมื่อปี ค.ศ. 2024 กำหนดให้กิจการที่มีสัดส่วนมลอากาศในขอบข่ายที่ 3 เกินกว่า 40% ของปริมาณมลอากาศที่ปล่อยทั้งหมด จะต้องตั้งเป้าหมายระยะใกล้ (5-10 ปี) เพื่อลดมลอากาศในขอบข่ายที่ 3 ลงให้ได้สองในสาม หรือ 67% ของปริมาณมลอากาศที่ปล่อยในขอบข่ายที่ 3 เพื่อให้สอดคล้องกับกรอบเพดานอุณหภูมิไม่เกิน 2°C เป็นอย่างน้อย ขณะที่การตั้งเป้าหมายระยะยาว (ปี ค.ศ. 2050) ต้องลดมลอากาศที่ปล่อยในขอบข่ายที่ 3 ให้ได้ 90% เพื่อให้สอดคล้องกับกรอบเพดานอุณหภูมิไม่เกิน 1.5°C
อนึ่ง แนวร่วมอุณหภิบาล (CAG Alliance) เป็นความริเริ่มของสถาบันไทยพัฒน์ ที่เน้นส่งเสริมบทบาทขององค์กรธุรกิจแนวหน้าด้านการกำกับดูแลกิจการที่เกี่ยวโยงกับสภาพภูมิอากาศ โดยคำนึงถึงการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกในขอบข่ายที่ 3 ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่คุณค่า เพื่อมุ่งสู่การบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ตาม Corporate Net-Zero Standard ที่สอดคล้องกับศาสตร์ทางภูมิอากาศ
ข้อมูลเพิ่มเติม
คุณศิตา ศิริศักดิพร
โทรศัพท์: 02-930-5227 โทรสาร: 02-930-5228
อีเมล: info@thaipat.org
[ข่าวประชาสัมพันธ์]