Thaipat Institute

GRI Certified Training Partner นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2556

รู้จัก    CG   ¦   ESG   ¦   CSR   ¦   CSV   ¦   SD   ¦   SE   ¦   SB

6 ทิศทาง ESG ปี 2568: จาก ‘วิถียั่งยืน’ สู่ ‘วิสัยยั่งยืน’


ทิศทางที่ 1
Sustainability Stage: From ‘Journey’ to ‘Capacity’

กิจการที่ตระหนักว่า แม้การประกอบธุรกิจของตนจะอยู่ในวิถียั่งยืน (มาได้ถูกทาง) แต่ก็มิได้เป็นเครื่องรับประกันว่าจะเดินทางถึงปลายทางความยั่งยืนได้จริง ยังจำเป็นจะต้องมีพาหนะสำหรับการเดินทางที่เหมาะสม หรืออีกนัยหนึ่งคือ การพัฒนาวิสัยยั่งยืน (ให้ไปถึงที่หมาย) ด้วยการบ่มเพาะสมรรถนะบุคลากรและการจัดสรรทรัพยากรสำหรับการดำเนินการกับปัจจัยด้าน ESG ที่มีนัยสำคัญและสอดคล้องกับบริบททางธุรกิจ พร้อมกับปรับแนวการดำเนินงานและจุดเน้นขององค์กรให้สอดรับกับวิสัยสามารถ (Capacity) ที่กิจการพัฒนาขึ้นเพื่อขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืนอย่างมีสมรรถภาพ


ทิศทางที่ 2
Sustainable Strategy: From ‘Setup Committee’ to ‘Rebalance Scorecard’

กิจการที่อาศัยกลยุทธ์ความยั่งยืนเป็นเครื่องมือดำเนินงานมาแล้วระยะหนึ่ง จะเริ่มดำเนินการผนวกเรื่องความยั่งยืนเข้ากับกลยุทธ์องค์กร โดยมีคณะกรรมการบริษัทคอยตรวจสอบดูแล (Oversight) ดำเนินการศึกษาและปรับแต่งเครื่องมือและตัววัดเกี่ยวกับความยั่งยืนที่สอดคล้องกับบริบทของกิจการและเป็นไปตามมาตรฐานที่สากลยอมรับ สำหรับใช้กำกับดูแลให้มีความสมดุลรอบด้าน โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยคณะกรรมการชุดย่อยเข้ามาทำหน้าที่แทนอีกต่อไป


ทิศทางที่ 3
Corporate Governance: From ‘Shareholder-centric’ to ‘Climate-aligned’

บริษัทจดทะเบียน จำเป็นต้องสร้างความรู้ความเข้าใจแก่คณะกรรมการบริษัทต่อการกำกับดูแลกิจการที่เกี่ยวโยงกับสภาพภูมิอากาศ รวมถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ที่เป็นสาระสำคัญ ทั้งในมุมมองที่เป็นความเสี่ยงและโอกาสซึ่งกระทบต่อผลประกอบการขององค์กร (Outside-in Perspective) และในมุมมองที่เป็นผลกระทบสู่ภายนอกทั้งต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมโดยรวม (Inside-out Perspective) เพื่อนำไปสู่การจัดทำรายงานความยั่งยืนสำหรับเปิดเผยต่อผู้ลงทุนและผู้มีส่วนได้เสียตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง


ทิศทางที่ 4
Climate Action: From ‘Green Policy’ to ‘Transition Plan’

กิจการซึ่งอยู่ในข่ายที่ต้องดำเนินการตามข้อกำหนดด้านความยั่งยืนระหว่างประเทศ จำเป็นต้องศึกษาและจัดเตรียมข้อมูลการตรวจสอบสถานะ (Due Diligence) และจัดทำแผนการเปลี่ยนผ่าน รวมถึงอาจต้องมีการปรับปรุงกระบวนการผลิตสินค้าและบริการให้สอดคล้องกับมาตรฐานที่มีความเข้มงวดยิ่งขึ้น เนื่องจากกฎระเบียบดังกล่าวมีผลทั้งในทางตรงและในทางอ้อมกับบริษัททั้งภายในและภายนอกสหภาพยุโรปที่เกี่ยวโยงกันผ่านห่วงโซ่การผลิตโลก


ทิศทางที่ 5
Company Disclosure: From ‘Sustainability-related Financial Disclosure’ to ‘Real-world Impact Report’

จากการเปิดเผยข้อมูลในรายงานทางการเงินให้แก่ผู้ลงทุนเป็นพื้นฐาน และเพิ่มเติมมาสู่การเตรียมเปิดเผยข้อมูลทางการเงินเกี่ยวกับความยั่งยืนตามมาตรฐาน IFRS S1 และ IFRS S2 เพื่อตอบสนองต่อความคาดหวังของผู้ลงทุนในยุคปัจจุบัน กิจการที่ต้องการสื่อสารกับผู้มีส่วนได้เสียในวงกว้าง ซึ่งมิได้สนใจเฉพาะข้อมูลทางการเงินเกี่ยวกับความยั่งยืน ยังคงมีการจัดทำรายงานความยั่งยืนตามมาตรฐาน GRI เพื่อให้ข้อมูลที่เปิดเผยครอบคลุมถึงการพึ่งพาและผลกระทบสู่โลกภายนอก (Real-world Impact Report) ตามอุปสงค์ของผู้ใช้ข้อมูลกลุ่มดังกล่าว


ทิศทางที่ 6
Next Zero Target: From ‘Climate Agreement’ to ‘Biodiversity Framework’

ในปี 2568 จะมีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่ใช้มาตรฐานการรายงานข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพ ในการเปิดเผยข้อมูลการดำเนินธุรกิจที่เชื่อมโยงกับความหลากหลายทางชีวภาพตามเป้าหมายปลอดความสูญเสียสุทธิ (No Net Loss) เป็นเป้าหมายถัดจากการเปิดเผยข้อมูลการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวโยงกับสภาพภูมิอากาศตามเป้าหมายสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในจำนวนที่เพิ่มขึ้น